ศึกชี้ชะตาแชมป์พรีเมียร์ลีกปีนี้!?

จั่วหัวเรียกแขกเฉยๆและเป็นการด่วนสรุปเกินไปว่าเกมส์ที่แอนฟิลด์ในค่ำคืนวันพุธนี้จะเป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาลนี้หลังจากแข่งขันเพียง 12 นัด นั่นจึงเป็นเพียงเกมส์ชิงจ่าฝูงหลังจากผ่านมา 1 ใน 3 ของฤดูกาลนี้และนี่อาจจะเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ที่เราจะได้เห็นทีมจ่าฝูงและรองจ่าฝูงมีแต้มห่างกัน 3 คะแนน ในเงื่อนไขที่ทั้งทีมจ่าฝูงและรองจ่าฝูงลงแข่งเท่ากันในศึกพรีเมียร์ลีก
ครับผมกำลังพูดถึงเกมบิ๊กแมตท์ประจำกลางสัปดาห์นี้ หงส์แดง ลิเวอร์พูล เปิดบ้านพบกับไก่เดือยทอง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ซึ่งจะเป็นเจอกันระหว่างทีมที่มีปรัชญาการเล่นที่ต่างกันสิ้นเชิงในตอนนี้
ณ ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล ยังคงคอนเซ็ปท์เดินหน้าฆ่ามันและเป็นทีมที่สถิติเกมส์รุกดีที่สุด (ยิง 27 ประตู จาก 12 นัด) ขณะที่ สเปอร์ของมูริญโย่ได้การอัปเกรดจากรถบัสยางรั่วในปีก่อนที่เสียประตูกระจุยกลับกลายเป็นรถบัสเสริมคอนเทนเนอร์ที่โดดเด่นทั้งเกมรับและเกมรุกในปีนี้โดยเป็นทีมที่มีสถิติเกมส์รับที่ดีสุดในลีกปีนี้ (12 นัด เสีย 10 ประตู/ ยิงได้ 24 ประตู)
โดยสถิติย้อนหลัง 5 นัดหลังสุดที่ทั้งสองทีมเจอกัน ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายชนะรวด 5 นัด โดยหลังสุดที่สเปอร์ชนะต้องย้อนกลับไปปี 2017 ที่สเปอร์สถล่มไป 4-1 ที่สนามเวมบลีย์
สเปอร์ทีมลุ้นแชมป์?
รอยคีน ตำนานฮาร์ทแมนของปีศาจแดง ชื่นชมสเปอร์ว่า ตอนนี้ทีมถือว่าดูดีมาก และเทียบกับแมนซิตี้นั้นถือว่าดีกว่าด้วยซ้ำ และคงไม่ผิดนักถ้าถูกจัดอยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์ ร่วมกับลิเวอร์พูล เชลซีและแมนซิตี้
ขณะที่แกรี่ เนวิลล์ อดีตแบคขวาคู่ฮาของ เจมีคาร์ราเกอร์ เสริมว่าการเสริมตัวผู้เล่นสเปอร์ในปีนี้ การเล่นได้ตามแทคติกมู และการเก็บแต้มในเกมใหญ่ที่เก็บไปแล้ว 10 จาก 12 แต้มเต็ม เสริมบารมีการลุ้นแชมป์ของสเปอร์สมากๆ ขณะที่ การขาดหายไปของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์คทำให้ช่องว่างระหว่างทีมลุ้นแชมป์นั้นเปิดมากขึ้น โดยมองว่า หาก หงส์แดง มี ฟาน ไดจ์คที่สมบูรณ์ ช่องว่างระหว่างหงส์แดงกับทีมอื่นๆ ก็คงห่างเช่นเดียวกับปีก่อนที่ลิเวอร์พูลเดินหน้าคว้าแชมป์ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม
สวนทางกับแกรม ซูเนสส์ อดีตกัปตันทีมหงส์แดงยุค 80 ที่ พอล ป๊อกบาไม่ค่อยจะรู้จัก นั้นมองว่า สเปอร์สยังห่างกับลิเวอร์พูลอีกช่วงตัวหนึ่งและมีเพียงแฮร์รี่ เคนเท่า นั้นที่ดูจะเป็น 11 ตัวจริงให้กับหงส์แดงทีมเก่าของเขาได้
คล๊อปป์ vs มูริญโย่
นี่จะเป็นการเจอกันครั้งที่ 12 ของ เจอร์เกน คล็อปป์และโจเซ่มูริญโย่โดย 11 นัดก่อนหน้านี้ สถิติของ คล๊อปป์ ข่มจัด ชนะไป 5 เสมอ 4 แพ้เพียง 2 ครั้ง ทั้งสองต่างรู้ดีว่าเกมนี้เป็นเกมใหญ่และสำคัญมาก
ก่อนหน้านี้คล็อปป์ ได้เบรกลูกทีมก่อนเกมที่จะเสมอกับฟูแล่ม ว่าอย่าพึ่งไปมองถึงเกมที่เจอกับสเปอร์และให้โฟกัสที่เกมส์เจอกับฟูแล่มนะพวกแต่เหมือนลูกทีมจะไม่ได้ยินเท่าไหร่นัก
ส่วนความเป็นอริของทั้งคู่ไม่ค่อยมีปัญหาให้นำมาเป็นประเด็นเท่าไหร่ อย่างมากมีแซะเล็กๆน้อยๆมากกว่าโดยประเด็นก็คือ คล็อปป์ ออกมาบ่นกับสื่อเรื่องโปรแกรมในช่วงเดือนก่อนว่าโปรแกรมของทีมเค้าเตะถี่มากจนเป็นเหตุให้นักเตะเจ็บกระจายโดยมูก็เปรยๆแบบไม่เจาะจงทีมใดแต่คาดว่าเป็นบรรดาทีมลุ้นแชมป์นั่นแหละ ว่าทีมของเค้าเองก็มีการเล่น 4 นัดใน 1 สัปดาห์ช่วงเปิดฤดูกาลไม่เห็นมีใครหน้าไหนมาโวยวายกับเค้าเลย อีกทั้ง ก่อนเกมก็ออกมาเหน็บคล็อปป์ ว่าก็ไม่เห็นตัวจะเจ็บนี่ ก็เห็นเล่นกันอยู่ แถมยังบอกอีกว่านักเตะ U-16 และ U-21 เจ็บตั้งหลายคนไม่เห็นจะออกมาดราม่าเลยแหม่ ปัดโถ่ว!!
แผนการเล่น
ลิเวอร์พูลคงยึดแผนถนัดของตนเองนั่นคือ 4-3-3 โดยตัดการเล่นแบบ 4-2-3-1 ไปได้เลยเพราะโจต้าเจ็บถึงเดือนกุมภาพันธ์ตัวรุกอย่าง มินามิโนะ ก็ไม่ค่อยไหว แถมก่อนเกมส์ต้องปวดอีก เนื่องจาก อาจไม่มีโจเอล มาติป ที่เช็คฟิต ทำให้กองหลังลิเวอร์พูลวิกฤติถึงขั้นอาจจะต้องใช้ ฟาบินโย่คู่กับ เฮนโด้
ส่วนสเปอร์น่าจะมาในรูปแบบ 4-2-3-1 ไม่ก็ 3-5-2 แต่ไม่ว่าจะแผนไหน มูเน้นรับและรอโต้โดยใช้ทีเด็ด เคน-ซอนในจังหวะโต้กลับแน่นอน
ลักษณะรูปเกมที่คาดเจ้าบ้าน ลิเวอร์พูลจะต้องบุกเพื่อเอา 3 แต้มแน่นอน เพื่อขึ้นนำเป็นจ่าฝูงให้ได้ และจะได้ครองบอลเป็นส่วนใหญ่อย่างไรก็ตามการที่การขาดกองหลังคู่กลางน่าจะทำให้แผงแนวรับไม่กล้าดันสูงมากซึ่งนั่นจะเป็นการเข้าทางสเปอร์
ขณะที่สเปอร์ของมูริญโย่ที่ไม่สนการครองบอลอยู่แล้ว จะมารับแล้วรอโต้กลับที่ปีนี้เล่นงานทีมใหญ่มาตลอดเกมนี้ มูริญโย่ ดูแล้วไม่อยากแพ้แน่นอน ผลเสมอจะเป็นสิ่งที่เค้าพอใจแล้วจะมาแพคเกมรัดกุมโดยอาศัยมิดฟิลด์ตัวรับที่เล่นกันได้เขี้ยวมากๆทั้ง ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์กและ มุสซ่า ซิสโซโก้คอยตอดตัดเกมไม่ให้เกมลิเวอร์พูลทำเกมถนัด
คีย์แมน – โม ซาล่าห์ vs ซอน
เริ่มต้นที่โม ซาล่าห์ ดาวซัลโวของทีม ซัดไปแล้ว 10 ลูกในลีกและ 13 ประตูทุกรายการ สถิติ ของโม เจอกับสเปอร์ถือว่า ชอบยิงไก่สุดๆ โดยจัดไป 7 ลูกจาก 12 นัดมาเจอกัน มีเพียง 2 ทีมเท่านั้นที่บังโมชอบยิงได้มากกว่าไก่ คือ บอร์นมัธและวัตฟอร์ต2ทีมตกชั้นฤดูกาลที่แล้ว
ขณะที่ซอน กำลังมั่นใจสุดๆในปีนี้ ยิงไปแล้ว 10 ประตู จาก 13 นัด ปีนี้ถือว่าซอน คมสุดๆด้วยอัตราการยิงเข้ากรอบ 59% แถมยิงได้ทุกท่าทาง โหม่ง 1 เท้าซ้าย 4 เท้าขวา 5อย่างไรก็ตาม สถิติ ตี๋ซอน เจอกับ หงส์แดงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เจอลิเวอร์พูลไป 9 นัดซอน ยิงไป 1 ประตูเท่านั้น นั่นคือนัดที่ชนะ 4-1 เมื่อปี 2017 อย่างไรก็ตามลิเวอร์พูล ประมาทไม้ตาย “เคนจ่าน ซอนยิง” ของสเปอร์สในตอนนี้ไม่ได้และจะเป็นทีเด็ดในเกมนี้ได้